มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (24 มีนาคม 2553) ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.....ในวาระ 3 ด้วยคะแนนเสียง 245 เสียง ต่อ 0 โดยมีผู้งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนน 17 เสียง หลังจากนี้จะเสนอให้วุฒิสภาพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีประเด็นข้อเสนอของมูลนิธิเสียงธรรมฯ (เครือข่ายสถานีวิทยุเสียงธรรม ๑๑๗ สถานี) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรฯ และได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มีสาระสำคัญดังนี้ ๑. มีคำนิยาม "ชุมชน" ระบุเป็นถ้อยคำชัดเจนว่ามีความหมายอย่างกว้าง หมายถึง ประชาชนที่มีความสนใจในประเด็นเดียวกันโดยไม่จำกัดขอบเขตพื้นที่(ชุมชนเชิงประเด็น) ซึ่งจะมีผลให้ สถานีวิทยุเสียงธรรมสามารถกระจายเสียงได้โดยไม่ถูกลดกำลังส่งลงหรือไม่ถูกจำกัดขอบเขตพื้นที่ เนื่องจากมีสิทธิในการกระจายเสียงทัดเทียมกับวิทยุภาครัฐและภาคธุรกิจ ๒. กสทช. จะต้องจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงแก่วิทยุภาคประชาชนโดยมีสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และท้องถิ่น โดยลักษณะของการอนุญาตประกอบกิจการต้องทัดเทียมกับวิทยุภาครัฐและภาคธุรกิจ ๓. การได้สิทธิทดลองออกอากาศของวิทยุเสียงธรรมฯ เป็นการใช้คลื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย และจะได้รับใบอนุญาตโดยอัตโนมัติทันทีที่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตามบทเฉพาะกาล โดยสรุป เครือข่ายวิทยุเสียงธรรมฯ ทั้ง ๑๑๗ แห่งทั่วประเทศจะได้รับใบอนุญาตทันทีที่พระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ โดยไม่ต้องลดกำลังส่งลง จัดเป็นวิทยุภาคประชาชนระดับชาติ ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั่วประเทศ โดยมีมูลนิธิเสียงธรรมฯ เป็นผู้ขอรับใบอนุญาต ซึ่งคณะกรรมการ กทช. กำลังจะพิจารณาเพื่อมีมติเห็นชอบในหลักการนี้เพื่อให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป มูลนิธิเสียงธรรมฯ ขออนุโมทนาขอบคุณต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐสภา และขออนุโมทนาขอบคุณต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งประกอบด้วย ส.ส.ทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล นักวิชาการ ตัวแทนกทช. ตัวแทนสื่อ ตัวแทนNGO ฯลฯ เนื่องจากทุกท่านให้การสนับสนุนเครือข่ายวิทยุเสียงธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกทุกท่านในลำดับต่อไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการรับฟังธรรมะที่ชัดเจนของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศสืบไป จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน มูลนิธิเสียงธรรมฯ 24 มี.ค. 2553

< ย้อนกลับ		ถัดไป >